วันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2557

เฉลยคำตอบแบบทดสอบก่อนเรียนเรื่อง ฐานข้อมูล

เฉลยคำตอบ

เฉลยคำตอบแบบทดสอบระหว่างเรียน เรื่องระบบฐานข้อมูล

เฉลยคำตอบ

แบบทดสอบระหว่างเรียน เรื่อง ระบบฐานข้อมูล

แบบทดสอบระหว่างเรียน เรื่อง ระบบฐานข้อมูล

แบบทดสอบก่อนเรียนเรื่อง ระบบฐานข้อมูล

แบบทดสอบก่อนเรียนเรื่อง ระบบฐานข้อมูล

วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2557

ภาษา PHP เบื้องต้น

การเขียนโปรแกรมภาษา PHP จะต้องเขียนอยู่ในBlock ของคำสั่งของ PHP เสมอ โดยใน
รูปแบบของ 3 แนวทางดังต่อไปนี้
1. <?.........?>
2. <?php……………………………………?>
3. <script language=’php’>………</script>

การแสดงผลลัพธ์ของภาษา PHP มีแนวทางให้เราเลือกใช้ทั้งหมด3 แนวทางเช่นเดียวกัน
ดังนี้
1.echo”ข้อความที่ต้องการแสดง……………”;
2. print”ข้อความที่ต้องการแสดง……………”;
3. printf(“ข้อความที่ต้องการแสดง………….”);

ในการเขียน comment ของภาษา PHP มีแนวทางให้เราเลือกใช้ทั้งหมด 3 แนวทาง
เช่นเดียวกันดังนี้
1.// ครั้งละ 1 บรรทัด
2.# ครั้งละ 1 บรรทัด
3./*…………………*/ หลายบรรทัด

สัญลักษณ์ต่างๆ ที่ควรรู้
==  หมายความว่า  เท่ากับ
!=  หมายความว่า  ไม่เท่ากับ
<  หมายความว่า  น้อยกว่า
>  หมายความว่า  มากกว่า
<=  หมายความว่า น้อยกว่าหรือเท่ากับ
>=  หมายความว่า  มากกว่าหรือเท่ากับ
+=  หมายความว่า  ค่าที่มีอยู่ + ค่าหลัง =


สรุปฟังก์ชั่นPHPที่ใช้ในการเข้าถึง MySQL

1. ฟังก์ชั่น เชื่อมต่อไปยัง MySQL Serve
mysql_connect ("hostname", "username", "password")

2. ฟังก์ชั่นเลือกฐานข้อมูลที่ต้องการใช้งาน
mysql_select_db("database name", การเชื่อมต่อ)
3. คำสั่ง SQL ไปประมวลผลยังฐานข้อมูล
mysql_query("คำสั่ง", การเชื่อมต่อ)
4. อ่านข้อมูลจาก Result set โดยส่งค่าคืนเป็นข้อมูลชนิด array มี index เป็นฟิลด์ต่างๆของ
เรคคอร์ด
mysql_fetch_array(result)
5.ปิดการเชื่อมต่อกับ MySQL Server
mysql_close(การเชื่อมต่อ)

ฟังก์ชั่น PHP และ MySQLที่เกี่ยวข้อง

mysql_num_rows() 
ผลลัพธ์เป็นตัวเลข ที่แสดงจำนวนเรคคอร์ดทั้งหมดตามคำสั่งSQL ที่ได้เขียนเอาไว้

trim( )
เป็นการตัดช่องว่าง (Space) ทั้งด้านหน้า และ ด้านหลังของข้อมูลที่ป้อนเข้าไป เป็นการป้องกัน
ปัญหาการใช้งาน - Human Error


addslashes ()
ก่อนนำคำค้นไปแทรกในคำสั่ง select ใช้ฟังก์ชั่น addslashes()จะใส่เครื่องหมาย backslash(\) 
หน้าตัวอักษรที่อาจเป็นปัญหา . ตัวอักษรเหล่านั้นได้แก่ single quote ('), double quote ("), 
backslash (\) and NULL (the NULL byte).

mysql_free_result()
เอาไว้ใช้สำหรับการคืนเมมโมรี่ให้กับระบบ ไม่ใส่คำสั่งนี้ก็ได้ข้อดีของคำสั่งคือ เมื่อเรามีการquery 
แล้วได้ผลลัพธ์จำนวนมากๆ แล้วอาจจะทำให้ เมโมรี่เต็ม แล้วระบบในส่วนที่เราใช้อยู่นั้นอาจจะช้าเรา
จึงต้องทำการ ลบ หรือคืน เมมโมรี่ในส่วนนั้นออกไป



วันอังคารที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2557

ชนิดความสัมพันธ์ของระบบฐานข้อมูล

ความสัมพันธ์ระหว่างเทเบิลมีด้วยกันทั้งหมด 3 ลักษณะคือ
▫ ความสัมพันธ์แบบ 1:1 (One-to-One)
▫ ความสัมพันธ์แบบ 1:N (One-to-Many)
▫ ความสัมพันธ์แบบ M:N (Many-to-Many)

1. ความสัมพันธ์แบบ 1:1 (One-to-One)

      เป็นความสัมพันธ์ที่ 1 เรคอร์ดในเทเบิลใดๆ สามารถจับคู่กับเรคอร์ดในอีกเทเบิลได้เพียงเรคอร์ด
เดียวเท่านั้น แบบตัวต่อตัว



2. ความสัมพันธ์แบบ 1:N (One-to-Many)

     เป็นความสัมพันธ์ที่เรคอร์ดในเทเบิลใดๆ สามารถจับคู่กับเรคอร์ดในอีกเทเบิลหนึ่งได้หลายเรคอร์ด เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างเทเบิลลูกค้า และเทเบิลการสั่งซื้อ ลูกค้าคนหนึ่งจะมีใบสั่งซื้อสินค้าได้หลายใบ ในขณะที่ใบสั่งซื้อแต่ละใบ ต้องมาจากลูกค้าเพียงคนเดียวเท่านั้น



3. ความสัมพันธ์แบบ M:N (Many-to-Many)

       คือลักษณะที่เรคอร์ดหลายๆ เรคอร์ดในเทเบิลหนึ่ง มีความสัมพันธ์กับอีกหลายๆ เรคอร์ดในอีกเทเบิลหนึ่งพร้อมกัน เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างเทเบิลลูกค้า และเทเบิลสินค้า ลูกค้าหนึ่งคนสามารถซื้อสินค้าได้หลายชนิด ในขณะที่สินค้าแต่ละชนิดก็จะถูกซื้อโดยลูกค้าหลาย ๆ คนได้ด้วย การสร้างความสัมพันธ์ประเภทนี้ ต้องใช้เทเบิลอื่นมาช่วยเป็นสะพานในการเชื่อมโยง





วันจันทร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557

คำสั่ง SQL ในการสร้างฐานข้อมูล


*คำสั่ง SQL เบื้องต้น

การเลือกข้อมูลทั้งหมดของ Table 
SELECT * FROM [table Name]

SQL WHERE 
เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับการระบุเงื่อนไขการเลือกข้อมูลในตาราง (Table) คำสั่ง SQL WHERE สามารถระบุเงื่อนไขในการเลือกข้อมูลได้ 1 เงื่อนไข หรือมากกว่า 1 เงื่อนไข

SELECT Column1, Column2, Column3,... FROM Table-Name WHERE [Field] = 'Value

SQL ORDER BY 
เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับการระบุเงื่อนไขการเลือกข้อมูลในตาราง (Table) โดยจัดเรียงข้อมูลตามต้องกา

SELECT ... FROM [Table-Name] ORDER BY [Field] [ASC/DESC],[Field] [ASC/DESC],...

**ASC = น้อยไปหามาก
    DESC = มากไปหาน้อย

SQL ALIAS 
เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับการระบุเงื่อนไขการเลือกข้อมูลในตาราง (Table) โดย ALIAS คือการสร้างชื่อจำลองขึ้นมาใหม่ โดยสามารถจำลองชื่อได้ทั้งชื่อ Field และชื่อ Table

SELECT Column1 AS Alias1,Column2 AS Alias2,Column3 AS Alias3,... FROM [Table-Name1] Table Alias

SQL - SUM  
เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับการระบุเงื่อนไขการเลือกข้อมูลในตาราง (Table) โดยหาค่าผลรวมของฟิวด์รูปแบบโค้ด

SELECT SUM(Column/Field) AS [New-Field] FROM [Table-Name]

SQL OR AND 
เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับการระบุเงื่อนไขการเลือกข้อมูลในตาราง (Table
) การเชื่อมวลีสำหรับเงื่อนไขต่าง ๆ 

SELECT Column1,Column2,Column3,... FROM [Table-Name] WHERE [Field] = 'Value' [AND/OR] [Field] = 'Value'

SQL LIMIT 
เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับการระบุเงื่อนไขการเลือกข้อมูลในตาราง (Table) ที่สามารถกำหนดจำนวน Record ที่แสดงผลออกมาได้

SELECT Column1, Column2, Column3,... FROM [Table-Name] ORDER BY [Fields] [ASC/DESC] LIMIT [Int-Start] , [Int-End]

SQL เพิ่มข้อมูลเข้าสู่ตาราง
INSERT INTO <ชื่อตาราง>(ฟิลด์1,ฟิลด์2,ฟิลด์3) VALUES(ข้อมูล1,ข้อมูล2, ข้อมูล3);

SQL คำสั่งลบข้อมูลในตาราง
DELETE  FROM <ชื่อตาราง> WHERE <เงื่อนไข>;

SQL คำสั่งแก้ไขข้อมูลในตาราง
UPDATE <ชื่อตาราง> SET <ฟิลด์> = <ข้อมูล> WHERE <เงื่อนไข>;
SQL คำสั่งที่ใช้ในการ search คือ LIKE
SELECT * FROM table_name WHERE $field_search LIKE '$search';

**$field_search = ฟิลด์ที่ต้องการค้นหา     
**$search = คำที่ต้องการค้นหา
LIKE '%$search' แปลว่า ลงท้ายด้วย $search
LIKE '$search%' แปลว่า ขึ้นต้นด้วย $search
LIKE '%$search%' แปลว่า มีคำว่า $search (ช้าสุด)

SQL การใช้ limit ในการ Select ตาราง
select * from table_name limit 0, 5;

**คำอธิบาย  limit 0, 5
0 หมายถึง ให้เริ่มแสดงจาก record ที่ 0 (record แรก)หรือหมายถึงเริ่มแสดงที่เรคคอร์ดที่เท่าไหร่
5 หมายถึง ให้แสดงเป็นจำนวน 5 record หรือหมายถึงนับว่าจะเอากี่เรคคอร์ด จาก 0

SQL ในการ Insert
Insert into table_name (field_name1, field_name2) values ('$data1', '$data2');

SQL ในการ Update
Update table_name set field_name1='$data1', field_name2='$data2';

SQL ในการ Delete
Delete from table_name where field_name='$variable' ;